วิธีเปลี่ยนภาษา WooCommerce: 4 วิธี

การแปลร้านค้าของคุณอาจเป็นความคิดที่ดีที่จะช่วยให้คุณเข้าถึงผู้ชมทั่วโลก หากเป็นกรณีของคุณ เรามีบางอย่างสำหรับคุณ ในโพสต์นี้ เราจะแสดง วิธีเปลี่ยนภาษา WooCommerce และปรับปรุงการมองเห็นร้านค้าของคุณ

ทำไมต้องเปลี่ยนภาษาของร้านค้าของคุณ?

ภาษาเริ่มต้นของ WooCommerce คือภาษาอังกฤษ แม้ว่าสำหรับคนจำนวนมาก ภาษาอังกฤษเป็นภาษา "สากล" แต่ความจริงก็คือหลายคนไม่พูดภาษาอังกฤษ หากผู้ใช้ส่วนใหญ่ของคุณใช้ภาษาอังกฤษไม่คล่อง อาจเป็นความคิดที่ดีที่จะเปลี่ยนภาษาของร้านค้าของคุณ

ประโยชน์หลักของการเปลี่ยนภาษาคือ คุณสามารถปรับแต่งไซต์ของคุณให้เข้ากับผู้ชม เพื่อให้พวกเขาได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้น

หากคุณขายผลิตภัณฑ์ให้กับประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเท่านั้น เช่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร หรือออสเตรเลีย คุณควรตั้งค่าร้านค้าเป็นภาษาอังกฤษ ในทางกลับกัน หากคุณกำหนดเป้าหมายไปยังประเทศที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษหรือผู้ชมทั่วโลก คุณอาจต้องการพิจารณาทำให้ร้านค้าของคุณมีหลายภาษา ตัวอย่างเช่น หากคุณขายให้กับละตินอเมริกาและสเปน คุณควรเปลี่ยนภาษาของร้านค้า WooCommerce ของคุณเป็นภาษาสเปน

เพียงแค่ปรับภาษา คุณจะมอบประสบการณ์ที่ดีขึ้นแก่ผู้ใช้ ซึ่งจะช่วยให้คุณเพิ่มยอดขายและรายได้ สุดท้ายนี้ หากคุณขายสินค้าทั่วโลก การมีตัวเลือกที่ช่วยให้ผู้ใช้เปลี่ยนภาษาได้นั้นถือเป็นข้อดีอย่างยิ่ง

ตอนนี้เราเข้าใจถึงประโยชน์ที่ดีขึ้นแล้ว มาดูกันว่าคุณจะทำอะไรได้บ้างเพื่อเปลี่ยนภาษาของร้านค้าของคุณ

วิธีการเปลี่ยนภาษา WooCommerce

มีสี่วิธีหลักในการเปลี่ยนภาษาของร้านค้า WooCommerce ของคุณ:

1. เปลี่ยนภาษาของแดชบอร์ด
2. ติดตั้งภาษาด้วยตนเอง
3. เปลี่ยนภาษาร้าน
4. สร้างร้านค้าหลายภาษา

แต่ละวิธีมีข้อดีและข้อเสียบางประการ มาดูแต่ละส่วนกันอย่างละเอียดเพื่อให้คุณสามารถเลือกสิ่งที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ

1) เปลี่ยนภาษาของแดชบอร์ด WooCommerce

ในส่วนนี้ คุณจะได้เรียนรู้วิธีแสดงภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักของร้านค้าของคุณ แต่ใช้ภาษาอื่นในแบ็กเอนด์ สิ่งนี้มีประโยชน์สำหรับคนที่ไม่พูดภาษาอังกฤษต้องจัดการส่วนหลัง ตัวอย่างเช่น คุณสามารถแสดงร้านค้าของคุณเป็นภาษาอังกฤษที่ส่วนหน้า แต่ใช้ภาษาเยอรมันสำหรับส่วนหลัง

ขั้นแรก ลงชื่อเข้าใช้แดชบอร์ด WordPress แล้วไปที่ การ ตั้งค่า > ทั่วไป

เลื่อนไปที่ด้านล่างแล้วคุณจะเห็นส่วน ภาษาของไซต์

การเปลี่ยนภาษาที่นั่นจะเป็นการแก้ไขภาษาของเว็บไซต์ของคุณทั้งหมด จากที่นี่ คุณยังสามารถติดตั้งภาษาเพิ่มเติมบนไซต์ของคุณได้ สำหรับการสาธิตนี้ เราจะตั้งค่าเว็บไซต์โดยเลือก Deutsch (ภาษาเยอรมัน) เป็นภาษาแบ็กเอนด์ของ WordPress เพียงมองหาภาษาในรายการ เลือกภาษานั้นและติดตั้งบนเว็บไซต์ของคุณ

หากทุกอย่างเป็นไปด้วยดี WordPress จะเปลี่ยนภาษาแบ็คเอนด์เริ่มต้นของคุณเป็น Deutsch (เยอรมัน) ดังที่คุณเห็นด้านล่าง

การกำหนดค่าปัจจุบันจะเปลี่ยนทั้งภาษาส่วนหลังและส่วนหน้า อย่างไรก็ตาม เราต้องการให้ส่วนหน้าเป็นภาษาอังกฤษ คุณต้องทำอย่างอื่น

ไปที่ Dashboard > Updates > Translations แล้วกด Upload Translations หลังจากนั้น ให้กลับไปที่ การตั้งค่า > ทั่วไป แล้วใช้เลือกภาษาที่คุณต้องการให้แสดงที่ส่วนหน้าจากเมนูแบบเลื่อนลง

จากนั้นไปที่ ผู้ใช้ > โปรไฟล์ แล้วคุณจะเห็นตัวเลือกให้เปลี่ยนภาษาของผู้ใช้ที่นั่น โดยค่าเริ่มต้น ผู้ใช้จะได้รับการกำหนดค่าด้วยภาษาของไซต์ แต่คุณสามารถเปลี่ยนได้

เพียงคลิกที่มันแล้วคุณจะเห็นภาษาที่ติดตั้งทั้งหมดในรายการดรอปดาวน์ เลือกภาษาที่คุณต้องการใช้ในแบ็กเอนด์และบันทึกการตั้งค่า

โปรดทราบว่าสิ่งนี้จะใช้ได้กับบัญชี WordPress ของคุณเท่านั้น หากสมาชิกคนอื่นในทีมของคุณสามารถเข้าถึงแดชบอร์ดได้ พวกเขาจะต้องเลือกภาษาที่ต้องการจากการตั้งค่าโปรไฟล์

แค่นั้นแหละ! จากนี้ไป ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณจะเห็นภาษาเริ่มต้นในส่วนหน้า และภาษาอื่นที่คุณเลือกที่ส่วนหลัง

2) วิธีการติดตั้งภาษาด้วยตนเอง

WordPress เป็น CMS ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ดังนั้นจึงมีการแปลในหลายภาษา อย่างไรก็ตาม บางครั้งคุณอาจต้องการใช้ภาษาที่ไม่มีใน WordPress ในกรณีนั้น คุณต้องติดตั้งภาษาด้วยตนเอง ในการดำเนินการนี้ให้เสร็จสิ้น คุณจะต้องดาวน์โหลดไฟล์ภาษา เข้าถึงไฟล์เว็บไซต์ของคุณผ่านไคลเอนต์ cPanel/an FTP หรือปลั๊กอินตัวจัดการไฟล์เฉพาะ และทำการอัปโหลดด้วยตนเองให้เสร็จสิ้น

มาดูกระบวนการนี้ทีละขั้นตอนกัน

สิ่งแรกที่คุณต้องทำคือเปิดส่วนการแปลของ WordPress และเลื่อนลงมาด้านล่าง ที่นั่น คุณจะเห็นภาษาทั้งหมดที่คุณติดตั้งได้บนเว็บไซต์ จากที่เก็บถาวร ให้ค้นหาภาษาที่คุณต้องการและคลิกลิงก์เปอร์เซ็นต์ ตัวอย่างเช่น สมมติว่าเราต้องการแปลเว็บไซต์ของเราเป็นภาษาเซอร์เบีย

ภายในหน้าภาษาแต่ละหน้า คุณจะเห็นห้าคอลัมน์:

• ชุด/โครงการย่อย: ส่วนต่างๆ ของปลั๊กอิน
• แปลแล้ว: สตริงที่แปล
• Fuzzy: สายอักขระที่ต้องปรับแต่ง
• ไม่ได้แปล: ส่วนของปลั๊กอินที่ไม่ได้แปล
• กำลังรอ: สตริงที่ต้องการการอนุมัติจากใครบางคนจากทีมแปลของ WordPress

ดาวน์โหลดโครงการพัฒนาจากที่นั่น จากนั้นเลื่อนลงไปด้านล่างจนกว่าคุณจะเห็นตัวเลือกการส่งออก จากนั้น เลือก . mo (Machine Object message Catalog) เป็นประเภทไฟล์และส่งออกให้เสร็จสิ้น

ไฟล์ . mo จะถูกดาวน์โหลดไปยังที่จัดเก็บในเครื่องของคุณ นั่นคือไฟล์ภาษาที่คุณต้องติดตั้งบนเว็บไซต์ของคุณ ในการเริ่มต้นการติดตั้ง คุณต้องมีไคลเอนต์ FTP เช่น การเข้าถึง FileZilla หรือ cPanel หรือคุณสามารถใช้ปลั๊กอินตัวจัดการไฟล์

ติดตั้งภาษาด้วยตนเองด้วย File Manager

เพื่อจุดประสงค์ในการสาธิตนี้ เราจะใช้ตัวจัดการไฟล์ ดังนั้นก่อนอื่น เราต้องติดตั้งและเปิดใช้งานปลั๊กอินบนเว็บไซต์ของเรา

หลังจากนั้น เปิดการตั้งค่าของปลั๊กอินและไปที่โฟลเดอร์ wp-content

ในบางกรณี จะมีโฟลเดอร์ชื่อ ภาษา . หากการติดตั้งของคุณมาพร้อมกับโฟลเดอร์นั้น คุณสามารถข้ามขั้นตอนนี้ได้ แต่ถ้าไซต์ของคุณไม่มีโฟลเดอร์ภาษา คุณต้องสร้างด้วยตนเอง

เปิดโฟลเดอร์และอัปโหลดไฟล์ภาษา . mo ที่คุณดาวน์โหลดในขั้นตอนก่อนหน้า

หลังจากอัปโหลดเสร็จแล้ว ให้กลับไปที่แดชบอร์ด WordPress แล้วไปที่ การตั้งค่า > ทั่วไป จากการตั้งค่าภาษา คุณจะเห็นภาษาที่ติดตั้งใหม่

เพียงเลือกจากเมนูแบบเลื่อนลงและอัปเดตการตั้งค่าเพื่อนำไปใช้กับไซต์ของคุณ ด้วยวิธีนี้ คุณสามารถติดตั้งภาษาต่างๆ ได้มากเท่าที่คุณต้องการ

ดังที่คุณเห็นในภาพหน้าจอด้านบน เราได้อัปเดตภาษาของการติดตั้ง WordPress เป็นภาษาเซอร์เบียสำเร็จแล้ว

นี่คือวิธีที่คุณสามารถเปลี่ยนภาษาของ WooCommerce โดยการติดตั้งด้วยตนเอง

3) เปลี่ยนภาษาของร้าน

หากคุณต้องการใช้ภาษาเดียวในร้านค้า WooCommerce ของคุณ ส่วนนี้เหมาะสำหรับคุณ การใช้ภาษาเดียวเป็นตัวเลือกที่ง่ายที่สุด และเหมาะสมเมื่อแบ็กเอนด์และฟรอนท์เอนด์ของไซต์ไม่ต้องการภาษาอื่น

ข่าวดีก็คือการเปลี่ยนภาษาของไซต์ของคุณนั้นค่อนข้างง่าย จากแดชบอร์ด WordPress ของคุณ ให้ไปที่ ทั่วไป > การตั้งค่า และมองหาตัวเลือก ภาษาของไซต์

เมื่อคุณคลิกดรอปดาวน์ คุณจะเห็นภาษาที่พร้อมให้คุณติดตั้งบนเว็บไซต์ของคุณ

เลือกภาษาที่คุณต้องการใช้ในร้านค้าของคุณและบันทึกการตั้งค่า การดำเนินการนี้จะเปลี่ยนทั้งภาษาส่วนหลังและส่วนหน้าของไซต์ของคุณ

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณอัปเดตการแปลเป็นประจำเพื่อให้ร้านค้าของคุณอัปเดตโดยใช้ปุ่ม อัปเดตการแปล

นี่คือวิธีที่คุณสามารถปรับเปลี่ยนภาษาของร้านค้าของคุณได้อย่างง่ายดาย

4) สร้างร้านค้าหลายภาษา

ตัวเลือกสุดท้ายในการเปลี่ยนภาษาของร้านค้า WooCommerce คือการสร้างร้านค้าหลายภาษา นี่เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับธุรกิจที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์หรือบริการทั่วโลก ด้วยร้านค้าหลายภาษา คุณสามารถแปลร้านค้าของคุณเป็นภาษาต่างๆ และแสดงส่วนหน้าในภาษาที่เหมาะสมสำหรับผู้ใช้แต่ละคน ด้วยวิธีนี้ คุณสามารถมอบประสบการณ์ที่ดีขึ้นแก่ผู้เยี่ยมชม ซึ่งจะช่วยให้คุณเพิ่มยอดขายได้

ในการสร้างร้านค้าหลายภาษา คุณต้องตั้งค่า WooCommerce และปลั๊กอินการแปลอย่างถูกต้อง สำหรับบทช่วยสอนนี้ เราจะใช้ Loco Translate ปลั๊กอินแปลภาษาฟรีที่ดีที่สุดตัวหนึ่ง

ติดตั้งและเปิดใช้งาน Loco Translate

ขั้นแรก ติดตั้งและเปิดใช้งาน Loco Translate บนร้านค้า WooCommerce ของคุณ

หลังจากเปิดใช้งานปลั๊กอิน คุณจะเห็นการตั้งค่าทางด้านซ้ายมือ เนื่องจากเราจะแปลปลั๊กอิน WooCommerce ให้ไปที่ ปลั๊กอิน ภายใต้ Loco Translate คุณจะเห็นปลั๊กอินที่ติดตั้งไว้ทั้งหมด และคุณต้องเลือก WooCommerce

จะไม่มีภาษาโดยค่าเริ่มต้น ดังนั้นคุณต้องสร้างภาษาใหม่

คุณจะเห็นวิซาร์ดการกำหนดค่าและคุณต้องเลือกภาษาและเลือกตำแหน่งสำหรับจัดเก็บไฟล์ ตัวอย่างเช่น สมมติว่าคุณมีลูกค้าจำนวนมากจากตะวันออกกลาง คุณจึงต้องการแปลร้านค้าของคุณเป็นภาษาอาหรับ เลือกภาษาอาหรับจากดรอปดาวน์ ตำแหน่งที่จัดเก็บ จากนั้นคลิก เริ่มการแปล

ระบบจะเริ่มแปลเนื้อหา ขึ้นอยู่กับขนาดของไซต์ของคุณ การดำเนินการนี้อาจใช้เวลาสักครู่ ดังนั้นคุณอาจต้องรอสักครู่ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของไซต์ของคุณ

หลังจากการแปลเสร็จสิ้น ให้บันทึกการตั้งค่า เท่านี้ก็เรียบร้อย! คุณได้สร้างร้านค้าหลายภาษาและเปลี่ยนภาษาของไซต์ WooCommerce ของคุณ

หากต้องการแปลร้านค้าของคุณเป็นภาษาอื่นๆ ให้ทำตามขั้นตอนเดียวกันกับการเลือกภาษาที่คุณต้องการ

หมายเหตุ : จับตาดูการอัปเดต ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่ปลั๊กอิน WooCommerce เปิดตัวเวอร์ชันใหม่ คุณจะต้องอัปเดตไฟล์ที่แปลด้วยเพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างได้รับการแปล

ปลั๊กอินการแปล WordPress ที่ดีที่สุด

หากคุณต้องการแปลร้านค้า WooCommerce ของคุณด้วยตนเอง คุณมีสองตัวเลือก:

• จ้างผู้เชี่ยวชาญ
• ใช้ปลั๊กอินการแปลโดยเฉพาะ

การจ้างผู้เชี่ยวชาญมักจะมีราคาแพงกว่าและคุณภาพก็ไม่ได้ดีเสมอไป หากคุณกำลังจะจ้างคนมาแปลปลั๊กอินของคุณ เราแนะนำให้มองหาเจ้าของภาษาที่มีประสบการณ์ในการแปลซอฟต์แวร์ที่ดี

ในทางกลับกัน หากคุณมีงบจำกัดและต้องการประหยัดเงินในการแปล คุณสามารถใช้ปลั๊กอินเฉพาะได้ มีเครื่องมือแปลภาษามากมายและบางเครื่องมือก็ใช้งานได้ฟรี

หากคุณกำลังมองหาปลั๊กอินการแปล WordPress ที่ดีที่สุด ปลั๊กอินบางตัวที่เราสามารถแนะนำได้คือ:

• WPML
• Polylang
• Weglot
• Loco Translate
• แปลข่าว
• MultilingualPress

ปลั๊กอินทั้งหมดเหล่านี้ใช้งานง่ายและมาพร้อมกับคุณสมบัติล้ำสมัย ลองดูแล้วเลือกอันที่เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณของคุณมากที่สุด

บทสรุป

โดยรวมแล้ว การแปลไซต์ของคุณสามารถช่วยให้คุณมอบประสบการณ์ลูกค้าที่ดีขึ้นและเพิ่มยอดขายของคุณได้ ในคู่มือนี้ เราได้เห็นสี่วิธีในการเปลี่ยนภาษาใน WooCommerce:

1. เปลี่ยนภาษาของแดชบอร์ด
2. ติดตั้งภาษาด้วยตนเอง
3. เปลี่ยนภาษาทั้งร้าน
4. สร้างร้านค้าหลายภาษา

วิธีที่ง่ายที่สุดคือเปลี่ยนภาษาของทั้งร้านซึ่งจะปรับเปลี่ยนทั้งส่วนหน้าและส่วนหลัง หรือถ้าคุณต้องการมีภาษาสำหรับฟรอนท์เอนด์และภาษาอื่นในแบ็กเอนด์ คุณสามารถเปลี่ยนภาษาของแดชบอร์ดได้ หากคุณต้องการแปลร้านค้าของคุณเป็นภาษาที่ไม่มีใน WordPress คุณจะต้องติดตั้งด้วยตนเอง

สุดท้าย หากคุณขายให้กับหลายตลาดทั่วโลก การสร้างร้านค้าหลายภาษาเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของคุณ และส่วนที่ดีที่สุดคือคุณสามารถใช้ปลั๊กอินฟรีเพื่อทำเช่นนั้นได้

คุณแปลไซต์ของคุณหรือไม่? คุณใช้วิธีไหน? แจ้งให้เราทราบในความคิดเห็นด้านล่าง!

หากคุณพบว่าบทความนี้น่าสนใจ โปรดแชร์บนโซเชียลมีเดียและช่วยเพื่อนของคุณแปลเว็บไซต์